Search

🇸🇬 #Singapore #เล่าประสบการณ์
🚇 ทำมือถือตกลงไ...

🇸🇬 #Singapore #เล่าประสบการณ์
🚇 ทำมือถือตกลงไปบนราง MRT @ สิงคโปร์ 🇸🇬
.
กลับมาเล่าดีเทลให้ฟัง
เผื่อมีใครอยากตามรอย 😆 อ่ะ! ไม่ใช่สิ
เผื่อจะมีใครดวงซวยเหมือนพี่แป๋ว ทำของตกลงไปตรงช่องระหว่างประตูกับแพลตฟอร์ม MRT
จะได้รู้ว่าต้องทำยังไง หรือต้องเจออะไรบ้าง
.
ปล. โพสต์นี้ยาววววว เพราะจะเล่าอย่างละเอียด โดยเฉพาะตอนดีลกับพนักงาน MRT ซึ่งบางจุดรู้สึกไม่ค่อยโอเค 🙄
.
แต่โดยรวม ก็คือ ต้องขอบคุณเค้าแหล่ะที่ช่วยเก็บเครื่องมือทำมาหากินของแอดมินเพจขึ้นมาให้
.
===================
#ภาค1 #ณจุดเกิดเหตุ
.
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (14 สค 64) เวลาเกือบๆ บ่ายโมง
พี่แป๋วเดินทางคนเดียวบน MRT ขออนุญาตไม่เปิดเผยสายและสถานีที่เกิดเหตุ
.
ขณะที่กำลังยืนเล่นโทสับบนรถไฟ
(จริงๆ ก็ไม่ได้เล่นหรอก กำลังเขียนคอนเทนท์เพจนี่แหล่ะ)
ก็มีคนมาชนที่แขน(ข้างที่ถือโทสับ)อย่างแรงมากกกกกตอนประตูรถไฟเปิด
.
โทสับกระเด็นจากมือ ลอยขึ้นไปกลางอากาศ แล้วหักหัวร่อนลงสวยๆ ตรงช่องว่างระหว่างประตูกับแพลตฟอร์มไปเลย ไม่มีกระทบขอบใดๆ ให้กระเด็นกระดอนสกัดไว้ได้
.
ตอนนั้นก็ตกใจขั้นสุด 😱
รีบออกไปนอกรถไฟ แล้วชะโงกลงไปดู ก็เห็นโทสับเรานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างล่าง ไฟจากหน้าจอยังสว่างอยู่
.
พยามคิดว่า จะกู้โทสับขึ้นมายังไงดี
ใจนึงก็อยากได้ของเราคืนนั่นแหล่ะ แต่อีกใจนึง คือ กลัวมันจะทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วย เช่น โดนรถไฟทับแล้วลากไป ล้อ/รางอาจเสียหาย หรือ โดนดีดขึ้นไปติดใต้ท้องรถ ฯลฯ
.
แว่บแรก นึกถึงตอนอยู่ฮ่องกงว่า ในตัวสถานี MTR จะมีโทสับแขวนๆ อยู่ เพื่อให้โทรไปที่ห้อง/เคาน์เตอร์เจ้าพนักงานประจำสถานีถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งก็พยายามสอดส่ายสายตา แต่ไม่เห็น
.
หันไปหันมาอีกที เห็นตู้แบบนึง ติดบนผนัง มันคือ #ปุ่มกดหยุดรถไฟ
.
ซึ่งก็โชคดีที่มันใช้ยาก 😆
เลยไม่เกิดเหตุการณ์ คือหัตถาครองพิภพจบขบวน 🤣
.
ขณะที่ยืนงงอ่านวิธีใช้ปุ่มกดหยุดรถไฟ ประมาณ 1 วิ ก็มีคุณลุงคนสิงคโปร์คนนึง
(ที่รู้สึกว่า คนนี้ตามประกบตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเรื่อง สัญชาติญาณตอนนั้น รู้สึกว่า ลุงแกเข้ามาช่วย อาจจะเป็นพยานว่า อยู่ในเหตุการณ์หรือเป็นคนชนเราเองก็ไม่รู้ 😆 แต่คิดว่าไม่น่าใช่)
.
คุณลุงก็บอกว่า “อย่ากดๆๆๆ รีบขึ้นไปบอกเจ้าหน้าที่ข้างบน”
.
ณ ตอนนั้น คนค่อนข้างเยอะ แบบยืนเต็มบันไดเลื่อนเลย พี่แป๋วก็วิ่งขึ้นบันไดปกติในสปีดอะดรินาลินหลั่ง 😆 ปรู้ดเดียวถึงหน้าเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ แล้วเล่าให้เค้าฟัง
เจ้าหน้าที่คนนึงอายุไม่เยอะ(น่าจะระดับ junior) ก็เดิน(เนือยๆ)ออกมากับเรา กลับลงไปที่ชานชาลา
.
เห็นการแสดงออกของเจ้าหน้าที่ก็แว่บคิดขึ้นมาว่า น่าจะมีคนทำของตกลงไปบ่อยเนอะ เพราะดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่เลย 😆 และก็พูดซ้ำๆ วนไปวนมาแค่
.
“เราไม่สามารถหยุดระบบรถไฟเพื่อลงไปเก็บให้คุณได้นะ ต้องรอจนรถไฟหยุดวิ่ง” (ประมาณเที่ยงคืน)
.
พี่แป๋วคิดแว่บนึงสมัยอยู่ฮ่องกงหรือใดๆ ก็แล้วแต่ว่า เออ เราก็ไม่เคยได้ยินข่าว ต้องหยุดรถไฟเพื่อลงไปเก็บของตกนะ ก็คิดว่า มันคงเป็นการปฏิบัติของพวกรถไฟใต้ดินจริงๆ แหล่ะ ก็เลยโอเค ทำใจ แล้วแต่ดวงละทีนี้ ว่าโทสับเราจะตกลงไปในสภาพยังไง หรือตรงจุดไหน
.
คุณ จนท ก็ถามว่า ทำตกที่ประตูไหนให้พาไปดู เราก็คุ้นแค่ว่า ประตูช่วงกลางรถไฟที่ออกมาแล้วเจอเสา ก็พาเค้าไปที่ประตูนั้น แต่ก็บอกไปด้วยว่า ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า
.
เจ้าหน้าที่ก็ไปยืนที่ประตูที่พาไป มองๆ ลงไป แล้วก็บอกว่า “ก็ไม่เห็นมือถือซักเครื่องนึงเลย” 🙄
.
เราก็บอก เราเห็นไฟจากหน้าจอสว่างสะท้อนขึ้นมาตอนมันนอนอยู่ข้างล่างนะ ตอนมองผ่านช่องที่ตกลงไป มันตกลงไปจริงๆ
.
จนท ก็ถามกลับมาเหมือนเดิม ตกลงคือตกลงไปที่ประตูนี้ใช่มั้ย 🙄 ก็ตอบอีกครั้งว่า ก็ไม่แน่ใจไง แต่น่าจะ 3-4 ประตูช่วงกลางๆ รถไฟนี่แหล่ะ
.
เค้าก็มองๆ ลงไปอีกครั้งแล้วก็บอก “มองไม่เห็นโทสับนะ” ยังถามต่ออีก ตกลงมันตกลงไปที่ประตูนี้ใช่มั้ย
.
ตอนนั้นเริ่มหงุดหงิดแล้ว ก็บอกเฮ้ย บอกแล้วไงว่าไม่แน่ใจ แล้วมองลงไปอย่างงี้มันไม่เห็นหรอก มันมืด #มีไฟฉายมั้ยละ ส่องลงไปอาจจะเห็น
.
จนท ตอบ #ไม่มี 🙄
(นึกในใจ มันน่าจะเป็นอุปกรณ์เบสิคของคนปฎิบัติหน้าที่ในสถานีรถไฟมั้ยวะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป)
.
แล้ว จนท ก็บอกว่า เอางี้ละกัน แล้วจะเดินหาให้ทุกประตูนะ เป็นอันอยากตัดจบเคสเราแต่เพียงเท่านี้
.
เราก็ยังคาใจว่า ตกลงมันตกอยู่ตรงไหน สภาพมันยังอยู่ดีรึเปล่า
ที่สำคัญ อยากพิสูจน์ให้ จนท เห็นด้วยว่า มันตกลงไปจริงๆ เราไม่ได้โกหกหรืออะไร
ก็เลยถามว่า มีโทสับมั้ย เราอยากติดต่อที่บ้านให้เอาไฟฉายมาให้ เค้าก็พาเรากลับขึ้นไปที่เคาน์เตอร์พนักงาน
.
เค้าก็บอกพนักงานอีกคนนึง (ดูทรงแล้วน่าจะระดับจูเนียร์เหมือนกัน) บอกว่า เราอยากใช้โทสับ
คุณ จนท เบอร์ 2 ก็ยื่นกระดาษกับปากกา ผ่านช่องตรงเคาน์เตอร์ออกมา แล้วบอกให้เราเขียนหมายเลขที่อยากโทรหา แล้วกดเบอร์ให้เรา ยื่นโทสับผ่านช่องออกมาอีกที ซึ่งพี่ตี๋(สามี) คงยุ่งเลยไม่ได้รับสาย
.
เราก็ส่งโทสับคืน แล้วถามว่า ตกลงต้องทำยังไงต่อ ?
คุณ จนท เบอร์ 2 บอกว่า “แล้วจะติดต่อไปครับ”
.
เรายืนมองหน้านิ่งๆ 2-3 วิแล้วถามว่า “คุณรู้แล้วใช่มั้ยจะติดต่อเราได้ยังไง”
.
พี่แป๋วคงมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่าน เพราะ จนท ดูลนลาน ทำไรไม่ถูก 😅
ก็เลยถามต่อ(พร้อมให้ hint) ไปว่า “คุณคงรู้แล้วใช่มั้ยว่า ติดต่อเราได้ที่เบอร์ที่เพิ่งให้ไป แล้วคุณต้องการชื่อเรามั้ย หรือชื่อเจ้าของเบอร์นั้น”
.
คุณ จนท ยังคงลนลานทำไรไม่ถูกต่อไป 😅
จน คุณ จนท เบอร์ 1 ที่ลงไปที่รถไฟกับพี่แป๋วเดินมาหา แล้วยื่นแบบฟอร์มมาให้กรอก แล้วบอกให้ใส่เบอร์โทรกับชื่อคนที่จะให้ติดต่อกลับ และเขียนรายละเอียดมือถือที่ตกลงไปด้วย (นึกในใจ เออ ต้องอย่างงี้สิวะ) เราก็กรอกไป
.
จนท ก็บอกมาว่า ถ้าลงไปเก็บให้แล้วจะติดต่อไป อาจจะคืนนี้หรือพรุ่งนี้เช้า เราก็ถามต่อว่า มีเบอร์โทรให้เราติดต่อตามเคสนี้ด้วยได้มั้ย
.
ความทำอะไรไม่ถูกเกิดขึ้นอีกครั้ง 😅
แล้วคุณ จนท จูเนียร์ทั้งสองเบอร์ก็ไปตาม จนท อีกคนมาหาเรา คนนี้ดูมีอายุ อาจเป็นบอสใหญ่ เราก็ถามคำถามเดิมกลับไป เค้าบอก
.
ไม่มีเบอร์ให้เราโทรตามเคสหรอก เค้าจะติดต่อเรากลับไปเอง
.
เรานิ่งไป 1 วิ แล้วถามว่า คือ “MRT เนี่ย ไม่มีแผนก Lost & Found ให้ติดต่อหรือตามเคสเหรอคะ”
.
เค้าก็ตอบกลับว่า “มี แต่ไม่ใช่สำหรับของที่ตกบนราง คนละส่วนกัน” 🙄
.
ฟังแล้วก็แบบ เมื่อกี้ตรูก็เพิ่งกรอกแบบฟอร์ม Lost & Found ไปป่ะ แต่ก็ขี้เกียจจะเสวนาให้รำคาญใจทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ไปหาเบอร์ในเนตเอาก็ได้ ก็เลย โอเค บ๊ายบาย ขอบคุณ
.
=============
#ภาค2 #คุณป้ายาม
.
ระหว่างเดินกลับไปที่รถไฟ เหลือบไปเห็น จนท อีกคนยืนคุมตรงประตูตัดเงินเข้าออก เป็นคุณป้ามีอายุน่าจะเป็นยาม
เราก็เลยเดินไปถามว่า มีไฟฉายมั้ย จะหาของที่เราเพิ่งทำตกลงไปบนรางรถไฟ
.
คุณป้าดูตกอกตกใจ ถามว่า หนูไปแจ้ง จนท รึยัง แล้วจะพาพี่แป๋วเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์
ก็บอกว่า ไปแจ้งเรื่องมาแล้ว แต่เราอยากได้ไฟฉาย อยากรู้ว่าของตกอยู่ตรงไหน
.
คุณป้ายังถามเราว่า อ้าว แล้วถามเค้ารึปล่าว เค้าไม่มีเหรอ เราบอก ไม่มี
.
“งั้นเอาของป้าไป แต่อันเล็กนะ อาจจะส่องไม่เห็น” พร้อมเดินลงไปที่รถไฟด้วยกัน ไปที่ประตูเดิม แล้วช่วยส่องหาให้ แต่ก็ไม่เห็น
พี่แป๋วเลยบอก คงต้องรอตอนรถไฟมาจอด แล้วส่องไปตรงช่องประตู ซึ่งจากป้ายบอกว่า ต้องรออีก 2-3 นาที
.
คุณป้ายามบอกว่า สงสัยป้าอยู่ด้วยนานไม่ได้ ป้าทิ้งจุดที่ยืนทำงานนานไม่ได้ หนูหาต่อละกัน แล้วยังไงเอาไฟฉายมาคืนป้านะ
เราโอเค ว่าแล้วป้าก็เดินจากไป
.
พอรถไฟมาถึง เอาไฟฉายอันจิ๋วส่องลงไป #ก็เห็นโทสับแล้ว ก็อยู่ตรงประตูที่ไปหากันตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหล่ะ นอนนิ่งๆ แต่หน้าจอดับไปแล้ว
.
ก็เลยเดินกลับไปขอบคุณคุณป้า บอกว่าเจอแล้ว อยู่ประตูเบอร์ 13
คุณป้าบอก ดีใจด้วย แต่มันอาจจะมีแรงลมตอนรถไฟวิ่งผ่าน ของเราอาจจะเคลื่อนที่ไปจากเดิมนะ แต่ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวคืนนี้ จะมีคนลงไปเก็บให้นะ
.
ด้วยความคาใจ ก็ถามป้าไปว่า มันจะไม่ทำให้รถไฟเกิดอุบัติเหตุใช่มั้ย? ป้าบอกยิ้มๆ ว่า คนทำของตกลงไปบ่อย ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ…..
.
=================
#ภาค3 #LostAndFound
.
กลับถึงบ้านเล่าให้พี่ตี๋(สามี)ฟังด้วยความหงุดหงิด จนท เบาๆ ว่า ไม่พยามจะหาของกับเราเลย สรุป เราเห็นอยู่คนเดียว ไม่มีพยาน ถ้าเราเจอ จนท แย่ๆ ลงไปเก็บแล้ว(แม่ม)เก็บไว้เอง บอกว่า หาไม่เจอ จะทำไง(วะ)
.
พี่ตี๋เลยบอก โทรเข้าแผนก Lost & Found ของ MRT สิ เราบอก จนท บอกว่าคนละส่วนงานกัน พี่ตี๋บอก โทรเหอะ อย่างน้อยให้มันมี record เป็นเรื่องเป็นราว เกิดมีอะไรงี่เง่าขึ้นมา
.
พี่แป๋วก็หาเบอร์ง่ายๆ ไวๆ จากกูเกิลนั่นแหล่ะ
พอจนท Lost & Found รับทราบเรื่อง ก็ร้อนรนซักพี่แป๋ว (ตามสัญชาตญาณคนทำงานหน้าที่นี้) โทสับรุ่นอะไร เคสสีอะไร รถไฟสายไหน สถานีอะไร มุ่งหน้าไปทางไหน เหตุเกิดประมาณกี่โมง? เราก็ให้ข้อมูลไป
.
เค้าก็บอกจะประสานกับ จนท ให้นะ ยังไงต้องรอคืนนี้ถึงจะมีคนลงไปเก็บให้
พี่แป๋วก็บอก จริงๆ แจ้ง จนท ที่สถานีไว้แล้ว แต่ดูไม่ค่อย supportive เท่าไหร่ เลยโทรมาที่ Lost & Found บันทึกเป็น record อีกทาง
.
และก็ถามไปว่า พี่แป๋วสามารถขอเบอร์โทรเพื่อตามเคสนี้ได้มั้ย?
คุณ จนท บอกว่า โทรมาที่เบอร์ Lost & Found นี่แหล่ะ ทางเราจะตามให้เอง
(ปรี๊ดเบาๆ ดอกที่ 1 🌸 เมื่อนึกถึงคำตอบที่เคยได้รับจากคุณ จนท สถานี)
.
ก่อนลา ถามคำถามคาใจต่อ คือ โทสับเรามันไม่สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับรถไฟได้ใช่มั้ย? คุณ Lost & Found หัวเราะแหะๆ ตอบเหมือนคุณป้ายามเลยว่า ของก็ตกลงไปบ่อยนะ แต่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ……
.
================
#ภาค4 #พนักงานกะดึก
.
พอพาลูกเข้านอนเรียบร้อยประมาณสองทุ่มกว่าๆ ก็ลองออกมาดูที่สถานีอีกครั้ง #พร้อมไฟฉาย 😆 อยากเช็คว่า โทสับเรายังอยู่ดีมีสุขมั้ย
.
ถึงสถานีที่เกิดเหตุ มุ่งสู่ประตู lucky number เบอร์ 13 รอรถไฟมา ประตูเปิด ส่องไฟลงไป โล่งใจ #ยังนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิมจ้า (ในตำแหน่งและทิศทางเดิม)
.
จริงๆ แค่นี้ก็โอเคละ ใจชื้นขึ้นหน่อย คิดว่าไม่น่ามีอะไรละ แต่ใจนึงก็ยังคาใจ อยากให้มีพยานเห็นกับเราด้วย เลยเดินโฉบไปที่เคาน์เตอร์ จนท กะว่า ถ้าเป็นแก๊งเดิม เราขี้เกียจจะตอแยแล้ว แต่ถ้าเป็นกะใหม่จะลองถามให้เค้าลงมาดูกับเรา
.
พอถึงเคาน์เตอร์ ก็ตามคาด เป็นพนักงานกะใหม่แล้ว เลยตัดสินใจเข้าไปเล่าให้ฟังว่า เราทำมือถือตกลงไปที่รางรถไฟเมื่อกลางวันนะ พนักงานประมาณ 3-4 คน ทำท่าตกใจดูเหมือนยังไม่รู้เรื่องนี้
.
พี่แป๋วบอกว่า นี่กลับมาเอาไฟฉายส่องดู เราเจอมือถือเราแล้วนะ
จนท คนนึง พูดสวนทันทีว่า อยากให้ผมลงไปดูกับคุณด้วยใช่มั้ย
พี่แป๋วบอก yes!
.
เค้าลุกเดินไปที่ตู้หลังเก้าอี้ #หยิบไฟฉายขนาดสปอร์ตไลท์ย่อมๆ ออกมา แล้วเดินมาหาพี่แป๋ว
.
เห็นช็อตนี้แล้วปรี๊ดส์เบาๆ ดอกที่ 2 🌸🌸 กับคำตอบของ จนท กะกลางวัน
ก็ยังคิดอยู่ว่า มันจะเป็นได้ยังไงที่ จนท สถานีรถไฟจะไม่มีไฟฉาย
.
ระหว่างเดินไปที่รถไฟ จนท ก็บอก จริงๆ ไม่ต้องกลับมาหรอก ถ้าแจ้งเรื่องไว้แล้ว เดี๋ยวก็มีคนลงไปเก็บมาให้แล้วติดต่อไป
.
เราก็บอก เราอยากมาดูว่า โทสับเรายังอยู่ดีมีสุขรึปล่าว อีกอย่าง colleague คุณเมื่อกลางวัน เค้าไม่ supportive เลยนะ เค้าไม่พยายามจะหาโทสับกับเราเลย แล้วยังบอกอีกว่า ไม่มีไฟฉาย…..
.
…… ไม่มีบทสนทนาใดๆ ต่อ ณ จุดนี้
.
พอถึงประตู 13 คุณกะดึกก็สาดสปอร์ตไลท์ลงไปเลย แต่ไม่เห็น เพราะตำแหน่งตกมันเป็นมุมบอดใกล้ขอบประตู ไม่ได้อยู่กลางราง
.
พี่แป๋วก็บอกให้เค้ารอรถไฟมาและประตูเปิดก่อน
ซึ่งพอมาถึง เค้าก็นั่งยองๆ พินิจพิเคราะห์พึมพำ ประมาณหมอสูฯ อัลตร้าซาวน์สตรีมีครรภ์ 🤣
.
“โอเคนะครับ (คุณแม่🤣) เห็นแล้วนะครับ มือถือเครื่องนึงเนาะ ใส่เคสสีอ่อนๆ ใช่มั้ยครับ?”
“ใช่คร้าาาาา”
“ผมว่า ตำแหน่งนี้น่าจะปลอดภัยไม่ต้องกังวลนะครับ เดี๋ยวทางเราเก็บให้หลังรถไฟหยุดวิ่งนะครับ”
.
เครค่ะ จบปิ๊งกลับบ้าน
แอบแว่บมองชื่อคุณกะดึกที่ป้ายหน้าอก ท่องๆๆๆ ชื่อเค้าไว้ให้ขึ้นใจ 😆 เผื่อมีอะไรจะอ้างคนนี้แหล่ะ เป็นพยานให้เรา
.
=================
#ภาคจบ #ได้โทสับคืน
.
ในที่สุดก็มี จนท โทรมาหาราวๆ เกือบ 7 โมงเช้า บอกว่า เก็บโทสับได้แล้ว มารับคืนได้ที่สถานีที่ทำตก
.
ก็รีบออกไปรับ เจอคู่กรณีเก่า คุณ จนท ลนลาน
ต่างคนต่างไม่เสวนากันมาก เค้ายื่นฟอร์มที่เคยกรอกแจ้งเรื่องมาให้เซ็นรับของ อ่านในฟอร์มมีเขียนว่า โทรหาเราตั้งแต่เที่ยงคืนครึ่งเมื่อคืน 2 ครั้งแล้ว(เพราะเราสั่งไว้ให้โทรดึกได้) แต่ไม่มีคนรับ
.
เช็คโทสับ อะเมซิ่งสิงคโปร์ 🇸🇬
เคสบุบเป็นจุดๆ นิดเดียว โทสับไม่เป็นไรเลยยยยยย รอยขีดแม้แต่รอยขนแมวก็ไม่มี ขี้ฝุ่นยังไม่มีจับซักเม็ด
.
เป็นอันจบเรื่องระทึกแบบ happy ending แต่เพียงเท่านี้ ใครอยากได้อรรถรสเพิ่ม สามารถอ่านต่อได้ตามรูป 😆
.
==============
#บทสรุป #หากคุณทำของตกลงไปบนรางรถไฟฟ้า
.
(1) ถ้าทำตกในสิงคโปร์ 🇸🇬 หรือ ไทย 🇹🇭
ให้รีบไปหาเจ้าหน้าที่ในสถานี แต่ทำได้แค่แจ้งเรื่อง เพราะเค้าจะใช้วิธีเดียวกัน คือ เก็บของให้หลังรถไฟหยุดวิ่งแล้ว ก็ทำใจร่มๆ ลุ้นๆ รอไป ทำไรไม่ได้ไปกว่านี้
.
(2) ถ้าทำตกในสิงคโปร์ 🇸🇬
โทรเข้า Lost & Found แจ้งเรื่องไว้อีกที่ได้ (กันเหนียว) ที่เบอร์ 1800-628-2727 ขอ case number ไว้ตามเรื่องด้วย
.
(3) ถ้าทำตกในฮ่องกง 🇭🇰
ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน (ให้สังเกตตามผนังสถานีไว้ ปกติ จะมีโทรศัพท์ฉุกเฉินแขวนอยู่ให้โทรหาเจ้าหน้าที่)
เจ้าหน้าที่เค้าจะมีคีมคีบด้ามยาว เอามาใช้เก็บของให้คุณเลยตอนรถไฟมาจอดปกติ ตรงนี้คือที่สุด 👍🏻
#อยากให้เจ้าหน้าที่ของไทยและสิงคโปร์มาศึกษาไว้ ก็น่าจะดี มันไม่ใช่แค่เพื่อบริการประชาชน แต่พี่แป๋วว่า ซักวันนึง มันอาจจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ด้วย
.
#EatwithPalLi #พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง 🇸🇬🇭🇰


Tags:

About author
'852' ไม่ใช่ code ของสายลับเหมือน James Bond 007 แต่คนฮ่องกง ก็ใช้ code นี้ เรียกแทนตัวเอง โดย มาจาก telephone country code ของ HK 'Eat Like 852' จึงหมายถึง การ 'ตะลุยกิน' อย่างคนฮ่องกง ผ่านการตามรอย 'คนท้องถิ่น' อย่าง 'พี่แป๋วและอาตี๋'
อัพเดทข่าวฮอต ร้านฮิต ที่เที่ยวใหม่ๆ ในสิงคโปร์ ฮ่องกง โดย พี่แป๋ว Instagram: @eatlike852 E-mail: [email protected]
View all posts